การทดสอบผลกระทบและความรุนแรงของข้อความในสมอง
การทดสอบผลกระทบและความรุนแรงของข้อความในสมอง
แพทย์คนหนึ่งจ้างอาชญากรบางคนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในการทดลองและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นเพื่อแลกกับค่าตอบแทนทางการเงินให้กับครอบครัวของเขา.....
และชื่อของพวกเขาก็ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสิ่งล่อใจอื่นๆ
ในการประสานงานกับศาลฎีกาและต่อหน้ากลุ่มนักวิชาการที่สนใจในประสบการณ์ของเขา แพทย์นั่งหนึ่งในอาชญากรที่ถูกตัดสินประหารชีวิต
เห็นด้วยกับเขาว่าจะถูกประหารชีวิตโดยให้เลือดไหลออกมาโดยอ้างว่าศึกษาการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในภาวะนั้น แพทย์ปิดตาของชายคนนั้น แล้วติดตั้งสายยางบางๆ สองเส้นบนร่างกายโดยเริ่มจากหัวใจ และไปสิ้นสุดที่ข้อศอก.. เขาสูบน้ำอุ่นเข้าไปพร้อมกับอุณหภูมิร่างกายที่หยดลงมาที่ข้อศอก
และพระองค์ทรงวางถังสองถังไว้ในมือในระยะที่เหมาะสมเพื่อให้หยดน้ำตกลงมาจากสายยางในถังนั้นแล้วส่งเสียงคล้ายการตกของเลือดเหลวประหนึ่งว่าออกมาจากใจไหลผ่านหลอดเลือดแดงเข้าไป มือของเขาตกลงไปในถังและเขาเริ่มการทดลองแกล้งตัดหลอดเลือดแดงของมืออาชญากรเพื่อล้างเลือดของเขาและประหารชีวิต นักวิจัยซีดและเหลืองทั่วร่างของนักโทษประหาร
ดังนั้นพวกเขาจึงลุกขึ้นไปดูเขาอย่างใกล้ชิด
และเมื่อเผยพระพักตร์! ตกใจแทบตาย!!
ตายเพราะจินตนาการสมบูรณ์ทั้งภาพและเสียงโดยไม่เสียเลือดแม้แต่หยดเดียว และที่แปลกก็คือเขาตายไปพร้อม ๆ กันต้องใช้เลือดไหลออกจากร่างกายและทำให้ตายซึ่งหมายถึงจิตให้ สั่งให้ทุกส่วนของร่างกายหยุดทำงานเพื่อตอบสนองต่อจินตนาการที่สมบูรณ์แบบตามที่ตอบสนองต่อความจริงอย่างสมบูรณ์ ใส่ใจ ดีต่อจินตนาการของคุณ อวัยวะของคุณทั้งหมดจะตอบสนองต่อภาพที่คุณวาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ข้อความจากสมองไม่ว่าจะบวกหรือลบ กำหนดแนวทางชีวิตที่เราอยู่ โน้มน้าวตัวเองว่าเหนื่อย คุณจะเหนื่อยและเหนื่อยมากขึ้น
พยายามให้ข้อความเชิงบวกแก่จิตใจในขณะที่จิตใจตอบสนองต่อข้อความไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ
แม้ว่าคุณจะเขียนบนโซเชียลมีเดียว่าคุณรู้สึกป่วยจริงๆ หรือ "ป่วย" คุณก็จะป่วยได้นานที่สุด
สร้างความสุขแล้วจะมีความสุข เพราะความสุขมีองค์ประกอบที่ไม่เพิ่มการบ่น แล้วความวิตกกังวลจะมาหาคุณ
หัวข้ออื่นๆ: