ห้าเพื่อให้แน่ใจว่าระดับคอเลสเตอรอลที่สมดุล
ห้าเพื่อให้แน่ใจว่าระดับคอเลสเตอรอลที่สมดุล
ร่างกายมนุษย์ต้องการคอเลสเตอรอลเพื่อสร้างเซลล์และฮอร์โมนที่แข็งแรง และทำหน้าที่สำคัญบางอย่าง แต่สิ่งสำคัญคือบุคคลต้องทราบระดับคอเลสเตอรอลของตนเองจึงจะตระหนักถึงความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายเรียกว่าคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายที่สูงมากสามารถเข้าสู่ผนังหลอดเลือดแดงและก่อตัวเป็นก้อนแข็งที่นำไปสู่โรคหัวใจ ดังนั้น ตามที่เผยแพร่โดยเว็บไซต์ Jagran ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเพื่อให้แน่ใจว่าระดับคอเลสเตอรอลสมดุล ดังนี้:
1. ลดไขมันอิ่มตัว
ไขมันอิ่มตัวเรียกว่า "ไขมันไม่ดี" และพบได้ในอาหารสัตว์ เช่น เนื้อวัว สัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์นมไขมันเต็ม ตามเว็บไซต์ของ Mayo Clinic ไขมันอิ่มตัวสามารถเพิ่มคอเลสเตอรอลรวมในร่างกายได้ ดังนั้นการลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวจึงสามารถลดคอเลสเตอรอลชนิดไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ "ไม่ดี" ได้
2.เพิ่มเส้นใยที่ละลายน้ำได้
ใยอาหารที่ละลายน้ำได้จะละลายได้ง่ายในน้ำและยังแตกตัวเป็นสารคล้ายเจลในลำไส้ใหญ่อีกด้วย สามารถลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่กระแสเลือดได้ แหล่งอาหารที่มีใยอาหารที่ละลายน้ำได้ดีที่สุดได้แก่ ถั่ว ข้าวบาร์เลย์ แอปเปิ้ล ข้าวโอ๊ต อะโวคาโด บรอกโคลี เมล็ดเจีย และมันเทศ
3. เวย์โปรตีน
เวย์โปรตีนได้มาจากเวย์ซึ่งเป็นส่วนที่เป็นน้ำของนมซึ่งแยกออกจากนมเปรี้ยวเมื่อทำชีส เวย์โปรตีนช่วยเพิ่มปริมาณสารอาหารของอาหารและมีประโยชน์อย่างน่าอัศจรรย์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน ตามเว็บไซต์ของ Mayo Clinic การรับประทานเวย์โปรตีนเป็นอาหารเสริมจะช่วยลดทั้งคอเลสเตอรอลที่เป็นอันตรายและคอเลสเตอรอลรวม รวมถึงความดันโลหิตด้วย
4. กรดไขมันโอเมก้า-3
กรดไขมันโอเมก้า 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อไขมันที่ดีต่อสุขภาพนั้นเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไม่น่าเชื่อซึ่งควรเป็นส่วนหนึ่งของอาหารประจำวันของคุณ เว็บไซต์คลีฟแลนด์คลินิกอธิบายว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์
การมีไตรกลีเซอไรด์ในเลือดมากเกินไป (hypertriglyceridemia) จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็ง และด้วยเหตุนี้จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้
5. กำจัดไขมันทรานส์
อาหารที่มีไขมันทรานส์สูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ซึ่งทำให้ผู้ใหญ่หลายล้านคนทั่วโลกเสียชีวิต ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยเว็บไซต์ Mayo Clinic ยิ่งบริโภคไขมันทรานส์มากเท่าไร ความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น