การใช้มือถือกับ ADHD มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?
การใช้มือถือกับ ADHD มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?
การใช้โทรศัพท์มือถือกับ ADHD มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?؟
นักวิจัยพบว่าสมาร์ทโฟนอาจเป็นสาเหตุของโรคสมาธิสั้น (ADHD) ในผู้ใหญ่ที่เพิ่มขึ้น
การศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร American Medical Association เปิดเผยว่า ผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลาสองชั่วโมงขึ้นไปทุกวัน มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) มากขึ้น 10%
ความผิดปกตินี้มักเกี่ยวข้องกับเด็กเล็ก แต่สิ่งรบกวนสมาธิที่เกิดจากสมาร์ทโฟน เช่น โซเชียลมีเดีย การส่งข้อความ เพลง ภาพยนตร์ หรือโทรทัศน์ ทำให้เกิดสมาธิสั้นในผู้ใหญ่
นักวิจัยยังเชื่อด้วยว่าโซเชียลมีเดียโจมตีผู้คนด้วยข้อมูลที่สม่ำเสมอ ทำให้พวกเขาหยุดพักจากงานเพื่อตรวจสอบโทรศัพท์บ่อยครั้ง
อาจกล่าวได้ว่าผู้คนที่ใช้เวลาว่างไปกับเทคโนโลยีไม่ยอมให้จิตใจได้พักผ่อนและมุ่งความสนใจไปที่งานเดียว และสิ่งรบกวนสมาธิทั่วไปอาจทำให้ผู้ใหญ่มีสมาธิสั้นลงและวอกแวกได้ง่าย ตามรายงานของ “เดลี่เมล์” ของอังกฤษ
สมาธิสั้น
ในส่วนของเขา John Ratey ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์ที่ Harvard Medical School กล่าวว่า “ผู้คนถูกผลักดันให้ทำหลายอย่างพร้อมกันในสังคมปัจจุบัน และการใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวางอาจทำให้เกิดการติดหน้าจอ ซึ่งอาจนำไปสู่สมาธิสั้นลง”
ปัจจุบันผู้ใหญ่ประมาณ 366 ล้านคนทั่วโลกเป็นโรคสมาธิสั้น รัสเซล แรมซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการการรักษาและวิจัย ADHD สำหรับผู้ใหญ่ของเพนน์ แห่งคณะแพทยศาสตร์ Perelman ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าว
จากการศึกษาพบว่า หลักฐานแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีส่งผลต่อการทำงานของสมองและพฤติกรรม นำไปสู่อาการ ADHD ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความฉลาดทางอารมณ์และสังคมที่ไม่ดี การติดเทคโนโลยี การแยกตัวทางสังคม การพัฒนาสมองที่ไม่ดี และการรบกวนการนอนหลับ