ผลไม้ 5 ชนิดถือว่ามีโปรตีนสูง
ผลไม้ 5 ชนิดถือว่ามีโปรตีนสูง
โปรตีนเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และยังเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน กล้ามเนื้อ และการแข็งตัวของเลือด และหากบุคคลต้องการลดน้ำหนัก แผนการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงอาจช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้
จากข้อมูลของ Eating Well ตัวเลือกที่มีโปรตีนสูงอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ โปรตีนจากสัตว์ เช่น เนื้อแดง สัตว์ปีก และปลา แต่ก็มีอาหารจากพืชอื่นๆ เช่น ผลไม้บางชนิด ที่มีระดับโปรตีนที่เหมาะสมพร้อมกับสารอาหารอื่นๆ จำนวนมาก เช่น เป็นเส้นใย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหาร พืชสามารถต้านทานโรคได้ ทำให้เป็นอาหารเสริมที่ดีในแต่ละวัน
การบริโภคผลไม้มากขึ้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้ ในขณะเดียวกันก็ให้ประโยชน์ในการควบคุมน้ำหนักและส่งเสริมการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดี
แม้ว่าจะไม่มีโปรตีนในเปอร์เซ็นต์ที่มากนักเมื่อเทียบกับไก่และแหล่งสัตว์อื่นๆ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ นิโคล โรดริเกซ ระบุว่ารวมถึงการบริโภคในแต่ละวัน โดยเฉพาะประเภทที่มีเปอร์เซ็นต์สูงก็มีประโยชน์
ประเภทของผลไม้ที่มีโปรตีนสูงมีดังนี้
1. ฝรั่ง
ฝรั่งหนึ่งถ้วยประกอบด้วยโปรตีน 4.2 กรัม พร้อมด้วยไฟเบอร์ 9 กรัม หรือประมาณหนึ่งในสามของความต้องการรายวัน
2. แจ็คเก็ต
ขนุนหรือที่เรียกกันว่าขนุนเป็นผลไม้เมืองร้อนจากเอเชีย แอฟริกา และบางภูมิภาคของอเมริกาใต้ เป็นขุมทองของสารอาหาร โดยบางวัฒนธรรมนิยมรับประทานขนุนในรูปแบบต่างๆ พบมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
นอกจากโปรตีน 2.6 กรัมต่อการเสิร์ฟ 2 ถ้วยแล้ว ขนุนยังมีเส้นใย XNUMX กรัมและเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่ดี
3. ราสเบอร์รี่
ผลเบอร์รี่เป็นอาหารเสริมที่อร่อยสำหรับอาหารที่มีเส้นใยสูง แต่โดยเฉพาะแบล็กเบอร์รี่มีโปรตีนมากกว่าผลเบอร์รี่อื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบ บลูเบอร์รี่หนึ่งถ้วยมีโปรตีนประมาณ 1 กรัม ในขณะที่แบล็กเบอร์รี่หนึ่งถ้วยมีปริมาณโปรตีนเกือบสองเท่า แม้ว่าผลเบอร์รี่ทุกชนิดจะมีสารไฟโตนิวเทรียนท์ในตัวเองเนื่องจากมีเม็ดสีหลากสีสันในเนื้อ แต่แบล็กเบอร์รี่มีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งสามารถช่วยปกป้องหัวใจและสมองได้
4. อะโวคาโด
อะโวคาโดครึ่งลูกมีโปรตีน 1.5 กรัม เนื้อหาของผลไม้อะโวคาโดยังรวมถึงเส้นใยที่ 5 กรัมต่อผลไม้ครึ่งผล นอกเหนือจากไขมันที่ดีต่อสุขภาพ
5. ทับทิม
เมล็ดทับทิมครึ่งถ้วยให้โปรตีนประมาณ 1.5 กรัม เมล็ดทับทิมยังให้ไฟเบอร์ 3.5 กรัม และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแอนโทไซยานิน